วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

ว่านหางจระเข้ในเครื่องสำอาง



ว่านหางจระเข้ในเครื่องสำอาง


                นับเป็นเวลาหลายศัตรวรรษที่หลายประเทศรู้จักใช้ว่านหางจระเข้รักษาโรคอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีคุณวิเศษในการรักษาแผลไฟลวกอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วนะครับ รักษาแผลทั่วไป และระงับความเจ็บปวด รวมทั้งรักษาโรคเรื้อนกวาง จากเอกสารทางประวัติศาสตร์ของชาวอียิปต์ โรมัน กรีก แอลจีเรีย ตูนีเซีย อาหรับ อินเดียและจีน มีรายงานการใช้พืชชนิดนี้เป็นทั้งยาและเครื่องสำอาง ก่อนคริสตศักราช 1500  ปี (หรือ 957 ปีก่อนพุทธศักราช) มีรายงานของชาวอียิปต์ที่ถือว่าเป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด รายงานถึงสรรพคุณมากมายของว่านหางจระเข้ แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็ยังรักษาความงามและความมีเสน่ห์ของพระองค์ด้วยวุ้นของว่านหางจระเข้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรู้จักใช้พืชชนิดนี้มาเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว
                ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันก่อนนะครับ ชื่อวิทยาศาสตร์  Aloe vera ชื่อพ้อง  Aloe barbadensis Mill  ชื่อสามัญ : Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados  วงศ์ : Asphodelaceae
ชื่ออื่น : หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน แผ่นใบหนาสีเขียว มีจุดยาวสีเขียวอ่อน อวบน้ำ ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว ดอกสีแดงอมเหลือง โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น รูปแตร ผล เป็นผบแห้งรูปกระสวย
สรรพคุณในเครื่องสำอาง
                1.ใช้วุ้นของว่านหางจระเข้ ผสมในแชมพู ครีมนวดผม  วุ้นจากใบสดชโลมบนเส้นผม ทำให้ผมดก เป็นเงางาม และเส้นผมสลวย เพราะวุ้นของว่านหางจระเข้ทำให้รากผมเย็น เป็นการช่วยบำรุงต่อมที่รากผมให้มีสุขภาพดี ผมจึงดกดำเป็นเงางาม นอกจากนั้นแล้ว ยังช่วยรักษาแผลบนหนังศีรษะด้วย
2.ใส่ผม ทำให้ผมหงอกช้า เป็นเงางาม  สตรีชาวฟิลิปปินส์ ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้รวมกับเนื้อในของเมล็ดสะบ้า แล้วคลุกรวมกับวุ้น นำไปชโลมผมไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออก ใช้กับผมร่วง รักษาศีรษะล้าน
3. ลบจุดด่างดำ ลดฝ้าบนผิวหนัง  รักษาผิวเป็นจุดด่างดำ ผิวด่างดำนี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอายุมาก หรือถูกแสงแดด หรือเป็นความไวของผิวหนังแต่ละบุคคล ใช้วุ้นทาวันละ 2 ครั้ง หลังจากได้ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำสะอาด ต้องมีความอดทนมาก เพราะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ จึงจะหายจากจุดด่างดำ แต่ถึงอย่างไรก็ดี ควรใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ทา จะทำให้ผิวหนังมีน้ำ มีนวลขึ้น
4. รักษาสิว ใช้ส่วนที่เป็นวุ้นพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ช.ม แล้วล้างออก ช่วยดูดสิวเสี้ยนและฆ่าเชื้อบนผิวหน้ารักษาสิว ยับยั้งการติดเชื้อ ช่วยเรียกเนื้อ ช่วยลดความมันบนใบหน้า เพราะในใบว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เนื่องจากวุ้นว่านหางจระเข้มีสารที่ออกฤทธิ์เป็นกลัยโคโปรตีนชื่อ aloctin A พบในทุกๆ ส่วนของว่านหางจระเข้ ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ และเพิ่มการเจริญทดแทนของเนื้อเยื่อที่แผล ทำให้ช่วยเรื่องสิวอักเสบได้ดี และสาร Aloe-emodin, Alolin ยังทำให้หน้าชุ่มชื่นด้วย
สำหรับวันนี้ผมก็มีเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับ ว่านหางจระเข้ แก้สิวฝ้า ช่วยให้สิวยุบ มาฝากกันนะครับ มีวิธีทำดังนี้ครับ
1. ตัดว่านหางจระเข้แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 10-15 นาที  เพื่อให้ยางสีเหลืองไหลออกมา
2. ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออก  จนเหลือแต่วุ้นใสๆ ล้างยางออกให้หมด
3. นำเฉพาะวุ้นว่านหางจระเข้มาใช้  โดยหั่นเป็นชิ้นบางๆหรือบดละเอียดคั้นเอาเฉพาะน้ำวุ้น เก็บไว้ในตู้เย็นใช้ได้หลายครั้ง
วิธีใช้ กลางคืน ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิว ไม่ต้องล้างออก จะทำให้สิวแห้ง และยุบลง   กลางวัน หลังล้างหน้าทุกครั้ง ใช้น้ำวุ้นว่านหางจระเข้แต้มบริเวณหัวสิว รอให้แห้งแล้วทาครีมกันแดดทับได้เลย เท่านี้ท่านก็จะหน้าใสไกลสิวแบบประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วครับ

อ้างอิง
http://www.samunpri.com/beauty/
http://www.samoonprithai.com/skin.html
http://www.chaiwbi.com/0drem/web_children/2544/502/alovala-001-history.htm
http://www.plantgenetic-rspg.org/
http://www2.cheewajit.com/healthstation/health-a-beauty-tips/2-face/8-skin-aloe.html
http://www.e-busitrade.com/Aloe_vera_index.htm
http://medplant.mahidol.ac.th/cartoons/aloe.asp
http://www.kroobannok.com/3841
http://cg.lnwfile.com/_/cg/_raw/kg/ei/ep.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น