ว่านหางจระเข้ในเครื่องสำอาง
นับเป็นเวลาหลายศัตรวรรษที่หลายประเทศรู้จักใช้ว่านหางจระเข้รักษาโรคอย่างกว้างขวาง
เนื่องจากมีคุณวิเศษในการรักษาแผลไฟลวกอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วนะครับ
รักษาแผลทั่วไป และระงับความเจ็บปวด รวมทั้งรักษาโรคเรื้อนกวาง
จากเอกสารทางประวัติศาสตร์ของชาวอียิปต์ โรมัน กรีก แอลจีเรีย ตูนีเซีย อาหรับ
อินเดียและจีน มีรายงานการใช้พืชชนิดนี้เป็นทั้งยาและเครื่องสำอาง ก่อนคริสตศักราช
1500 ปี (หรือ 957 ปีก่อนพุทธศักราช)
มีรายงานของชาวอียิปต์ที่ถือว่าเป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด
รายงานถึงสรรพคุณมากมายของว่านหางจระเข้ แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็ยังรักษาความงามและความมีเสน่ห์ของพระองค์ด้วยวุ้นของว่านหางจระเข้
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรู้จักใช้พืชชนิดนี้มาเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันก่อนนะครับ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Aloe vera ชื่อพ้อง Aloe
barbadensis Mill ชื่อสามัญ
: Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad,
Barbados วงศ์ : Asphodelaceae
ชื่ออื่น
: หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1
เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบ เป็นใบเดี่ยว
ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบแหลม
ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน แผ่นใบหนาสีเขียว มีจุดยาวสีเขียวอ่อน อวบน้ำ
ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว
ดอกสีแดงอมเหลือง โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น
รูปแตร ผล เป็นผบแห้งรูปกระสวย
สรรพคุณในเครื่องสำอาง
1.ใช้วุ้นของว่านหางจระเข้
ผสมในแชมพู ครีมนวดผม วุ้นจากใบสดชโลมบนเส้นผม ทำให้ผมดก เป็นเงางาม
และเส้นผมสลวย เพราะวุ้นของว่านหางจระเข้ทำให้รากผมเย็น
เป็นการช่วยบำรุงต่อมที่รากผมให้มีสุขภาพดี ผมจึงดกดำเป็นเงางาม นอกจากนั้นแล้ว
ยังช่วยรักษาแผลบนหนังศีรษะด้วย
2.ใส่ผม ทำให้ผมหงอกช้า
เป็นเงางาม สตรีชาวฟิลิปปินส์
ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้รวมกับเนื้อในของเมล็ดสะบ้า แล้วคลุกรวมกับวุ้น
นำไปชโลมผมไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออก ใช้กับผมร่วง รักษาศีรษะล้าน
3. ลบจุดด่างดำ ลดฝ้าบนผิวหนัง รักษาผิวเป็นจุดด่างดำ
ผิวด่างดำนี้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอายุมาก หรือถูกแสงแดด
หรือเป็นความไวของผิวหนังแต่ละบุคคล ใช้วุ้นทาวันละ 2 ครั้ง
หลังจากได้ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำสะอาด ต้องมีความอดทนมาก
เพราะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ จึงจะหายจากจุดด่างดำ แต่ถึงอย่างไรก็ดี ควรใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ทา
จะทำให้ผิวหนังมีน้ำ มีนวลขึ้น
4. รักษาสิว ใช้ส่วนที่เป็นวุ้นพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ
30 นาที ถึง 1 ช.ม แล้วล้างออก ช่วยดูดสิวเสี้ยนและฆ่าเชื้อบนผิวหน้ารักษาสิว
ยับยั้งการติดเชื้อ ช่วยเรียกเนื้อ ช่วยลดความมันบนใบหน้า เพราะในใบว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ
เนื่องจากวุ้นว่านหางจระเข้มีสารที่ออกฤทธิ์เป็นกลัยโคโปรตีนชื่อ aloctin A พบในทุกๆ ส่วนของว่านหางจระเข้ ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ
และเพิ่มการเจริญทดแทนของเนื้อเยื่อที่แผล ทำให้ช่วยเรื่องสิวอักเสบได้ดี และสาร
Aloe-emodin, Alolin ยังทำให้หน้าชุ่มชื่นด้วย
สำหรับวันนี้ผมก็มีเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับ
ว่านหางจระเข้ แก้สิวฝ้า ช่วยให้สิวยุบ มาฝากกันนะครับ มีวิธีทำดังนี้ครับ
1. ตัดว่านหางจระเข้แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ
10-15 นาที
เพื่อให้ยางสีเหลืองไหลออกมา
2. ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออก จนเหลือแต่วุ้นใสๆ ล้างยางออกให้หมด
3. นำเฉพาะวุ้นว่านหางจระเข้มาใช้
โดยหั่นเป็นชิ้นบางๆหรือบดละเอียดคั้นเอาเฉพาะน้ำวุ้น
เก็บไว้ในตู้เย็นใช้ได้หลายครั้ง
วิธีใช้ กลางคืน ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิว
ไม่ต้องล้างออก จะทำให้สิวแห้ง และยุบลง
กลางวัน หลังล้างหน้าทุกครั้ง ใช้น้ำวุ้นว่านหางจระเข้แต้มบริเวณหัวสิว
รอให้แห้งแล้วทาครีมกันแดดทับได้เลย
เท่านี้ท่านก็จะหน้าใสไกลสิวแบบประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วครับ
อ้างอิง
http://www.samunpri.com/beauty/
http://www.samoonprithai.com/skin.html
http://www.chaiwbi.com/0drem/web_children/2544/502/alovala-001-history.htm
http://www.plantgenetic-rspg.org/
http://www2.cheewajit.com/healthstation/health-a-beauty-tips/2-face/8-skin-aloe.html
http://www.e-busitrade.com/Aloe_vera_index.htm
http://medplant.mahidol.ac.th/cartoons/aloe.asp
http://www.kroobannok.com/3841
http://cg.lnwfile.com/_/cg/_raw/kg/ei/ep.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น