ยาอำมฤควาที
ยาอำมฤควาที
ชื่อของยาแตกเป็นสองคำนะครับ คำว่า อำมฤค แปลว่า ผู้ไม่ตาย หรือ เทวดานั่นเอง วาที
แปลว่าคำพูด คำกล่าว ดังนั้นรวมกัน ยาอำมฤควาที แปลว่า
ยาที่มาจากคำบอกของเทวดาครับ
หลังจากรู้ที่มาของชื่อยากันแล้วคราวนี้เรามาดูว่ายาตัวนี้มีส่วนประกอบอะไรบ้างนะครับ ซึ่งยาตัวนี้มีส่วนประกอบดังนี้ครับ รากไคร้เครือ โกฐพุงปลา เทียนขาว ลูกผักชี
เนื้อลูกมะขามป้อม เนื้อลูกสมอพิเภก หนักสิ่งละ 7 ส่วน ชะเอมเทศ หนัก 43
ส่วน
วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดตามสัดส่วนมาบดเป็นผง
สรรพคุณ แก้ไอ ขับเสมหะ ละลายน้ำมะนาวแทรกเกลือ ใช้จิบหรือกวาดคอ
ขนาดรับประทาน ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1 ช้อนชา เด็กลดลงตามส่วน
จากส่วนผสมของยาตัวนี้จะเห็นได้ว่า ใช้ชะเอมเทศในอัตราส่วนมากที่สุด ดังนั้นในวันนี้ผมจะนำเรื่องราว และประโยชน์ของชะเอมเทศมาให้ท่านผู้ฟังได้รับทราบกันครับ
วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดตามสัดส่วนมาบดเป็นผง
สรรพคุณ แก้ไอ ขับเสมหะ ละลายน้ำมะนาวแทรกเกลือ ใช้จิบหรือกวาดคอ
ขนาดรับประทาน ผู้ใหญ่ ครั้งละ 1 ช้อนชา เด็กลดลงตามส่วน
จากส่วนผสมของยาตัวนี้จะเห็นได้ว่า ใช้ชะเอมเทศในอัตราส่วนมากที่สุด ดังนั้นในวันนี้ผมจะนำเรื่องราว และประโยชน์ของชะเอมเทศมาให้ท่านผู้ฟังได้รับทราบกันครับ
ชะเอมเทศ (liqourice) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Glycyrrhiza glabra Linn.เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Papilionuceae ชะเอมเทศเป็นพืชตระกูลถั่วซึ่งมีปลูกในตุรกีและกรีก
เป็นไม้พุ่มสูง 1-5 ม. ดอกสีฟ้า
สรรพคุณทางยาอยู่ในรากหรือเหง้าซึ่งมีสารกลซีร์ริซิน (glycyrrhizin) และสารเคมีหลายร้อยชนิด เช่น ไฟโตเอสโตรเจนและฟลาโวนอยด์
ชะเอมเทศถือเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่นำมาใช้กันแพร่หลายที่สุด
และมีการศึกษาวิจัยสรรพคุณยา ในทศวรรษ 1970
ชะเอมเทศเป็นสมุนไพรอันดับต้นๆ ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ
นำมาค้นคว้าตามหลักสูตรการศึกษาด้านอาหาร
ประโยชน์ของชะเอมเทศ ชะเอมเทศช่วยแก้ปัญหาในทางเดินหายใจโดยกำจัดเชื้อไวรัสที่ก่อกวนทางเดินหายใจ
บรรเทาอาการไอและเจ็บคอ ทำให้น้ำมูกลดลง สารกลีซีร์ริซินในชะเอมเทศจะ
กระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนให้ผลิตฮอร์โมนบางชนิด จึงช่วยรักษาอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
ปวดกล้ามเนื้อ และความผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดจากฮอร์โมนคอร์ติโซล (cortisol) จากต่อมหมวกไต นอกจากนี้ชะเอมเทศยัง รักษาการอักเสบได้ทุกประเภท
และใช้รักษาโรคไวรัสตับอักเสบ
โดยขจัดการอักเสบภายในตับและกำจัดไวรัสที่มักเป็นสาเหตุสำคัญของโรคนี้
ในญี่ปุ่นมีการใช้สารสกัดจากรากชะเอมเทศรักษาตับอักเสบมานานกว่า 20 ปี มีการศึกษาทางคลินิกพบว่ารากชะเอมเทศช่วยลดระดับเอนไซม์ตับ (amino-transferase)
ทำให้เซลล์ตับดีขึ้น
ประโยชน์อื่นๆของ ชะเอมเทศอาจ
ช่วยรักษาภาวะประจำเดือนผิดปกติและภาวะหมดประจำเดือน
สารกลีซีร์ริซินเป็นเอสโตรเจนอย่างอ่อนจึงอาจจับตัวรับเอสโตรเจนในร่างกาย ได้
ดังนั้นเมื่อร่างกายมีเอสโตรเจนมากเกินไป (เช่น
กรณีคนที่มีอาการผิดปกติก่อนมีประจำเดือน) กลีซีร์ริซินจะสกัดเอสโตรเจนส่วนเกิน
จึงลดฤทธิ์ของเอสโตรเจนลง ถ้าร่างกายมีเอสโตรเจนต่ำ (วัยหมดประจำเดือน)
กลีซีร์ริซินก็จะทำหน้าที่แทนเอสโตรเจนอย่างอ่อน
ส่วนครีมชะเอมเทศนั้นใช้ทารักษาผิวหนังอักเสบจากผื่นเอ็กซีมาได้
ส่วนต่างๆของชะเอมเทศลและสรรพคุณทางยา
- เปลือกของราก จะมีเป็นสีแดง
และมีรสหวานใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ทำให้คลื่นเหียน อาเจียน
-
ใบทำให้เสมหะแห้ง และเป็นยารักดีพิการ
-
ดอกใช้รักษาอาการคัน และรักษาพิษฝีดาษ
-
ผลจะมีรสหวาน ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง และอาการคอแห้ง ทำให้ชุ่มชื้น
-
รากจะมีรสชุ่ม ใช้เป็นยาบำรุงปอด ขับเลือดที่เน่าในท้อง
รักษาพิษยาหรือพืชพิษต่าง ๆ ชนิดคั่วแล้วรักษาอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
ตรากตรำทำงานหนัก ปวดท้อง ไอเป็นไข้ สงบประสาท บำรุงปอด ใช้รากสดรักษาอาการเจ็บคอ
เป็นแผลเรื้อรัง ระบบการย่อยอาหารไม่ดี หรืออาหารเป็นพิษ และรักษากำเดาให้เป็นปกติ
-อื่น ๆในรากของชะเอมนั้น จะมีแป้งและความหวานมาก
ต้องรักษาไว้อย่าให้แมลงมารบกวน เพราะพวกมอดและแมลงอื่นชอบกิน ถ้าผุจะทำให้เสื่อมคุณภาพ
นอกจากนี้ยังใช้รากผสมยาอื่น ช่วยกลบรสยา หรือแต่งยาให้หวานอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าชะเอมเทศมีสรรพคุณทางยามากมายจริงนะครับทำให้ยาอำมฤควาที
หรือยาเทวดาบอก ของเรามีส่วนผสมหาได้ไม่ยาก และสรรพคุณดี
เหมือนยาวิเศษที่เทวดาบอกจริงๆ ครับ ยาสมุนไพรดีๆแบบนี้เราควรที่จะอนุรักษ์เอาไว้ให้ลูกหลานต่อไปนะครับ
ด้วยเหตุนี้ทางโรงงานต้นแบบคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยลัยสงขลานครินทร์
จึงได้มีการพัฒนา วิจัย และปรับปรุงสูตรตำรับของยาไทยพื้นบ้าน และยาสมุนไพร
รวมถึงยาอำมฤควาทีนี้ให้ได้มาตรฐานเพื่อที่จะจัดจำหน่ายในอนาคต เพื่อทำให้คนรุ่นใหม่รู้จักยาสมุนไพรไทยกันมากขึ้น
และยังเป็นทางเลือกการใช้ยาอีกทางหนึ่งสำหรับท่านที่อยากเปลี่ยนจากยาแผนปัจจุบันมาเป็นยาสมุนไพรด้วยครับ
สำหรับท่านผู้ฟังท่านใดที่ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ที่ www.pharmacy.psu.ac.th หรือ
มีข้อสงสัยใดก็สามารถเข้าไปตั้งกระทู้ถามในเว็บบอร์ดได้เลยครับ
ทางคณะเภสัชศาสตร์ของเรามีคณาจารย์ที่มีความรู้ ความสามารถคอยตอบคำถามอยู่ตลอดครับ
อ้างอิง
http://herbal.pharmacy.psu.ac.th/index.php?option=com_content&task=view&id=66&Itemid=60
http://www.thaihof.org/
http://www.oknation.net/blog/ION/2008/06/30/entry-1
http://www.parngkhaw.com/shop/index.php?route=product/product&product_id=172
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pattani&month=18-09-2007&group=34&gblog=24
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=278874
http://blog.eduzones.com/smith/471?page2=3&page=&page3=&page4=&gallery_id=&vdo_id=&question_id=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น