วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความเข้าใจผิดระหว่างยาแก้อักเสบ กับ ยาปฏิชีวนะ

        สวัสดีครับ วันนี้ถือว่าเป็นวันแรกที่ผมได้เขียนบทความต่างๆนะครับ บล็อกนี้ก้อจะพูดถึงบทความเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างสมเหตผลและไม่เกินความจำเป็น วันนี้เริ่มต้นด้วย ตัวอย่างกันก่อนนะครับ


         ความเข้าใจผิดระหว่างยาแก้อักเสบ (anti-inflammatory drug) กับ ยาปฏิชีวนะ (antibiotics) หลายๆคนคงถามว่าสองอย่างนี้มันแตกต่างกันอย่างไร ทำไมคนส่วนใหญ่ยังคิดว่ายาปฏิชีวนะ คือ ยาแก้อักเสบกันอยู่ ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อที่เรารู้จักกันดี เช่น ยากลุ่ม Pennicillin นะครับ ซึ่งยากลุ่มนี้ใช้สำหรับกำจัดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ซึ่งยาปฏิชีวนะ ก็ยังมีอีกหลายกลุ่มหลายชนิด เพื่อใช้กำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส ที่แตกต่างกันไปนะครับ ส่วนยาแก้อักเสบ จะมีชื่อเรียกว่า NSAIDs (non-steriodal anti inflammatory drug) จะใช้ลดอาการปวดอักเสบที่เกิดจากสาร postaglandin ซึ่งกลไกจะไปยับยั้งสารดังกล่าวจะช่วยลดการปวด บวม แดง ร้อน หรือ เรียกรวมๆ ว่าอาการอักเสบได้ครับ ยาในกลุ่มนี้ที่มีความนิยมเช่น Ibuprofen เป็นต้นครับ 

        ที่นี้เวลาไปที่ร้านยา ก็ให้ใช้เรียกให้ถูกต้องด้วยนะครับ

Loperamide ยาหยุดถ่าย ใช้ดีจริงเหรอ??





     ท้องเสีย เป็น อาการที่ทุกคนต้องเคยเป็นนะครับ ซึ่งสาเหตุจากการเกิดท้องเสียนั้นเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น อาหารเป็นพิษ เกิดการติดเชื้อในระบบต่างๆ การใช้ยาบางกลุ่มที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือ ใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานเป็นต้น ซึ่งอาการท้องเสีย จะแบ่งได้ง่ายๆตามลักษณะของอุจจาระมีสองแบบใหญ่ๆ คือ เหลวใส และ เป็นมูก หรือมูกเลือด
ซึ่งถ้าถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือดหรือ เลือดปนนั้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ หรือ เภสัชกร เนื่องจากอาการดังกล่าวอาจจะเกิดจากการติดเชื้อ และ ต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์

    
     แต่ในบทความนี้จะกล่าวถึงท้องเสียที่เกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป คือ การท้องเสีย ที่เกิดจากอาหารเป็นพิษนะครับ
เมื่อมีอาการท้องเสีย เราจะมีอาการปวดมวนท้อง อ่อนเพลียจากการสูญเสียน้ำ และ ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำใสๆ ซึ่งบางคนก็จะต้องการใช้ยาหยุดถ่าย Loperamide ซึ่งมีกลไกลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ (ซึ่งการถ่ายเหลวเป็นน้ำใส และ ปวดมวนท้อง เกิดจากลำไส้ของเราคลื่นไหวมากและไม่ดูดซึมน้ำกลับเข้าสู่ร่างกาย)


ซึ่งยาตัวนี้ดูเหมือนจะใช้รักษาอาการได้อย่างตรงจุดใช่ไหมครับ แล้วท้องเสียทุกครั้งต้องใช้ยาตัวนี้ไหม??
แต่ความจริงแล้วในความเห็นของผู้เขียนควรจะใช้ในผู้ป่วยที่ท้องเสียรุนแรง หรือ ท้องเสียแต่ไม่สะดวกที่จะถ่ายอุจจาระบ่อยๆ เช่น ต้องเดินทาง หรือ นักท่องเที่ยว เนื่องจาก การท้องเสีย เป็นกลไกการกำจัดสารพิษในร่างกาย ซึ่งการปล่อยให้ร่างกายกำจัดพิษพวกนี้ไปจนหมด น่าจะดีกว่าใช้ยาหยุดถ่ายแล้ว สารพิษเหล่านั้นก็ยังอยู่ในร่างกาย
คำถามต่อมาคือ แล้วปล่อยให้เราท้องเสีย อย่างนั้นแล้วไม่เกิดต้องทำอะไรเลยเหรอ??? ที่จริงแล้วผู้ป่วยจะต้องได้รับผงน้ำเกลือแร่ สำหรับ ท้องเสีย ไปดื่มเพื่อชดเชยเกลือแร่ และ น้ำที่ร่างกายสูญเสียไปเนื่องจากท้องเสีย และป้องกันสภาวะขาดน้ำนะครับ

     การใช้ยาสำหรับบรรเทาอาการท้องเสียเนื่องจากอาหารเป็นพิษเบื้องต้นมีดังนี้ครับ
1 ผงเกลือแร่ สำหรับท้องเสีย (จำเป็นที่สุด )
2 ยาบรรเทาอาการปวดมวนท้อง ถ้าผู้ป่วยปวดมวนท้อง
และถ้าหากผู้ป่วยท้องเสียแต่ไม่สะดวกในการเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เช่น ต้องเดินทาง ก็อาจจะเพิ่มตัวยา Loperamide ไปนะครับ ถ้าผู้ป่วยมีไข้ ร่วมกับ อาการท้องเสีย อาจจะพิจารณาให้ยาฆ่าเชื้อร่วมกับยาลดไข้ หรือ ถ้าเป็นหนักมากๆ แนะนำให้ไป โรงพยาบาลครับเนื่องจากการขาดน้ำรุนแรงสามารถทำให้ผู้ป่วยช๊อคหมดสติ หรือ เสียชีวิตได้นะครับ โดยเฉพาะเด็กเล็ก


ถ้ากินยา Loperamide รับประทานอย่างไรหล่ะ??
การกินยาตัวนี้นะครับ ครั้งแรกให้รับประทาน 2 เม็ด หลังจากนั้น ถ้าท้องเสียอีก รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หนึ่งวันรับประทานได้ไม่เกิน 8 เม็ดนะครับ โดยส่วนใหญ่จะดีขึ้นภายในสองเม็ดแรกนะครับ (จำนวนการปวดท้องเข้าห้องน้ำลดลง)


จะเห็นได้ว่ายา Loperamide เป็นยาที่ดีแต่อย่างไรก็ตามควรจะใช้ในกรณีที่เหมาะสมเท่านั้นนะครับ