ตะไคร้หอมในเครื่องสำอาง
ตะไคร้หอม มีชื่อภาษาท้องถิ่นว่า ไคร้
หัวไคร้ ขิงไค มีชื่อภาษาอังกฤษว่า เลมมอนกลาส (Lemon Grass) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Cymbopogon nardus ในวงศ์กรามินีอี้ (Gramineae) ตะไคร้ประเภทนี้ไม่นิยมใช้ใส่ในอาหาร
แต่จะใช้สกัดเอาน้ำมันหอมระเหยจากใบและเหง้า มาใช้ไล่แมลง ทำเครื่องหอม ผสมสบู่
เครื่องสำอาง แต่งกลิ่นอาหารและเครื่องดื่มนะครับ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี
ลำต้นเป็นกอ สูงประมาณ 2 เมตร แตกกอหนาแน่น
โคนต้นมีนวลใต้ข้อ มีกลิ่นหอม
ใบเดี่ยว รูปเรียวยาว ขนาดกว้าง 1.5-3 เซนติเมตร ยาว 50-110 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมยาว โคนใบสอบยาว
ผิวใบหยาบ ไม่มีขน สีเขียวนวล ปลายใบโน้มลง
กาบใบเรียงซ้อนกันแน่น
รูปคล้ายทรงกระบอก หุ้มลำต้น
ลิ้นใบปลายกลมหรือตัด โคนมีผงสีขาวคล้ายแป้งที่ข้อและกาบใบ ช่อดอก ขนาดใหญ่ เรียงกันไม่หนาแน่น แบบประกอบซ้อน ยาว 60 เซนติเมตร มี 4-9 ข้อ
แตกแขนงช่อย่อย แกนกลางช่อดอกมีขนยาว 0.2-0.3 เซนติเมตร ช่อดอกย่อยมี 4-7 คู่ ช่อดอกย่อยแบบกระจะ
เกสรเพศผู้ มี 3 อัน เกสรเพศเมีย ก้านเกสร มี 2 อัน ยอดเกสรเป็นพู่ มีขนยาวนุ่ม ผลแบบผลแห้งเมล็ดติด
รูปทรงกระบอกหรือกึ่งกลม มีขั้วที่ฐาน
ตะไคร้
ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยที่เรียกว่า เลมมอนกลาสออย (lemon grass oil) 0.2-0.4 % ประกอบด้วยซิตรัล (citral) 80% เมอร์ซีน (myrcene)มีฤทธิ์ต้านและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียบางชนิดลด
ไข้จากแผลอักเสบ ต้านการแบ่งตัวของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด นอกจากนั้น
ยังมีสาระสำคัญอีกหลายชนิด เช่นเมนทอล (menthol) การบูร (camphor)
เทนพีนีล (tenpeneal) เจรานิออล (geranellal)เนรัล (neral) ฟาร์นีซาล (farnesal) และซิโตรเนลลอล (citronellal) เป็นต้น
มาถึงเรื่องตะไคร้หอมกับความงามกันแล้วนะครับ
หลายๆท่านอาจจะยังสงสัยว่า ตะไคร้หอมนอกจากไล่ยุงแล้ว
มันจะเกี่ยวกับความงามได้อย่างไร จริงๆแล้วตะไคร้หอมช่วยแก้ปัญหาเรื่องผมแห้งแตกปลายได้ดีทีเดียวครับ
ดังนั้นวันนี้ผมจึงได้นำวิธีทำครีมนวดผมตะไคร้สูตรโบราณแก้ผมแห้งแตกปลายมาฝากกันครับ
สาวๆที่ไว้ผมยาวแล้วมีปัญหานี้ฟังให้ดีนะครับ
วิธีทำง่ายมากครับ โดยตัด ตะไคร้มาสัก
3-4 ต้น ถ้าเป็นตะไคร้สดจากต้นเลยจะดีมาก
นำมาล้างให้สะอาดตัดเป็นท่อนเล็ก ๆก่อนจะเอาไปปั่นกับเครื่องปั่น ใส่น้ำสะอาดลงไปและกรองเอาน้ำตะไคร้ออกมา
ไม่ต้องใส่น้ำมากนัก เอาแค่แทนเป็นครีมนวด นวดทั่วศรีษะได้ วิธีใช้ หลังจากสระผมตาม
ปกติแล้วให้เอาน้ำตะไคร้ที่ได้มานวดทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้ว จึงล้างออก ใช้เวลาประมาณ
2 เดือน ผมของท่านจะเงางาม ไม่แห้งแตกปลาย อีกด้วยนะครับ
ถ้าพูดถึงเรื่องตะไคร้หอมก็ต้องพูดถึงเรื่องน้ำมันหอมระเหยในตะไคร้หอมด้วยนะครับ
ซึ่งน้ำมันหอมระเหยนี้มีคุณสมบัติช่วยผิวและผมของเราได้อีกด้วย เรามาดูกันเป็นข้อๆเลยดีกว่านะครับ
1.ใช้แช่มือ (Hand Bath) โดยใช้น้ำมันหอมระเหย 5-8
หยด (0.2-0.4 ซีซี) หยดลงในอ่างน้ำอุ่นประมาณ250ซีซี แล้วแช่มือ สัก5-10 นาที
ช่วยให้รู้สึก ผ่อนคลายและรักษารอยแตก หยาบกร้านของผิวหนังบริเวณมือ ทำให้มือนุ่มนวลน่าสัมผัสนะครับ
2.ใช้แช่เท้า foot bath โดยใช้น้ำมันหอมระเหย 10- 15 หยด(0.5-0.8 ซีซี) หยดลงในอ่างน้ำร้อนปริมาตร
500 ซีซี แล้วแช่เท้านาน 10 นาที เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า หยาบกร้านของผิวหนังบริเวณเท้าได้ในระดับหนึ่งนะครับ
3. ใช้ผสมกับโลชั่นบำรุงผิว (Skin
and Hair Care) ผสมน้ำมันหอมระเหยเล็ก น้อย ประมาณ 4-5 หยด
กับโลชั่นบำรุงผิว หรือ ครีมนวดผม (คิดเป็นปริมาตร 1%-3%ของโลชั่นหรือครีมที่ใช้)
เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงดูแลผิวหนังและเส้นผมได้
จะเห็นได้ว่าตะไคร้หอมมีดีมากกว่าใช้ไล่ยุงนะครับ
ไม่ว่าจะใช้สดๆในการดูแลผม หรือใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อใช้ดูแลผิว และผม แบบสปา
หรือผสมในโลชั่นก็สามารถทำได้นะครับ จะเห็นได้ว่าตะไคร้หอมนี้เป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยมที่มีคุณสมบัติปรนบัติผิว
และผมได้เป็นอย่างดี อย่าลืมนำเคล็ดไม่ลับที่ผมบอกไปลองใช้กันดูนะครับ จะได้ผิวใส
ผมสวยกันทั่วหน้าเลยทีเดียว
อ้างอิง
http://natres.psu.ac.th
http://beautyeasy.blogspot.com
http://www.n3k.in.th
http://www.chemipan.com/th/shop/index.php?option=com_content&view=article&id=69
http://variety.teenee.com/foodforbrain/3483.html
http://www.tistr.or.th/essentialoils/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น