วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เครื่องสำอางที่มีงาดำเป็นส่วนประกอบต่างจากเครื่องสำอางที่มีงาขาวเป็นส่วนประกอบอย่างไร



เครื่องสำอางที่มีงาดำเป็นส่วนประกอบต่างจากเครื่องสำอางที่มีงาขาวเป็นส่วนประกอบอย่างไร
                ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับงากันก่อนนะครับ งา  มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum indicum ชื่ออื่นๆ คือ งาดำ งาขาว เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 30-100 ซม. ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีร่องตามยาวของลำต้น มีขนปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามหรือสลับ ลักษณะใบเป็นรูปไข่ หรือรูปใบหอก กว้างประมาณ 2-5 ซม. ยาวประมาณ 6-10 ซม. ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีขาวหรือสีชมพู ผลเป็นผลแห้ง เมล็ดแบน รูปไข่ สีดำ น้ำตาลหรือสีขาว กลิ่นและรส ของเมล็ดงาคล้ายกับถั่ว องค์ประกอบสำคัญในเมล็ดก็คือน้ำมัน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 44-60% ซึ่งเราสามารถนำน้ำมันงาไปปรนนิบัติความงามได้มากมาย แล้วผมจะกล่าวถึงในตอนหลังนะครับ
ก่อนสมัยโมเสส ชาวอียิปต์โบราณใช้เมล็ดงาป่นแทนแป้งธัญพืช ส่วนชาวจีนรู้จักงามาอย่างน้อยก็ 5,000 ปีมาแล้ว พวกเขาเผาเมล็ดงาเพื่อใช้ทำแท่งหมึกจีนที่คุณภาพดี ส่วนชาวโรมันบดเมล็ดงาผสมขนมปังเป็นอาหารรสดี ชาวไทยก็มีขนมที่ใช้เมล็ดงา เรียกว่า ขนมงาตัด ใช้งากวนกับน้ำตาล แล้วตัดเป็นแผ่น
ในบางถิ่นมี ความเชื่อว่าเมล็ดงามีอำนาจอาถรรพณ์ และยังปรากฏในนิทานเรื่อง อาหรับราตรี ตอน อาลีบาบา กับโจรทั้งสี่สิบ ซึ่งมีคำกล่าวว่า เปิดเมล็ดงา (Open sesame)
พันธุ์งาที่ปลูกในประเทศไทยแบ่งตามสีของเมล็ดได้ 3 ชนิด ดังนี้ คือ งาดำ งาขาว และงาดำแดง หรืองาเกษตร ครับ แต่ชนิดของงาที่เราสนใจในวันนี้คืองาขาวและงาดำ ซึ่งต้องมาทำความเข้าใจก่อนนะครับว่างาขาวนั้นมาจากสองที่มาคืองาที่มีสายพันธุ์เมล็ดสีขาว จึงเรียกว่างาขาว และ  งาดำที่ผ่านกระบวนการขัดเอาเปลือกออกทำให้ได้เมล็ดสีขาวครับซึ่งเราก็เรียกงาขาวเช่นกันนะครับ แต่ในภาพรวมนั้นทั้งงาดำ และงาขาว ก็มีประโยชน์ด้านความงามเหมือนกันเพราะสารสำคัญตัวเดียวกันนะครับ
มาถึงประเด็นสำคัญที่จะพูดในวันนี้นะครับคือ งาขาว และงาดำ เกี่ยวกับความงามได้อย่างไร เนื่องจากในน้ำมันงามาสารสำคัญที่ช่วยด้านความงามหลายๆตัวดังนี้ครับ
 มีกรดไลโนเลอิค ซึ่งเป็นกรดไขมันช่วยในการบำรุงผมทำให้เส้นผมดกดำ ไม่หลุดร่างง่าย ผมไม่แห้งแตก ป้องกันการเกิดผมหงอก กระตุ้นการงอกของผมโดยกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดบนหนังศรีษะ กรดไขมันตัวนี้ยังสามารถเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนังได้ดีทำให้เราผิวไม่แห้งกร้านครับ นอกจากนี้เราสามารถนำน้ำมันงามาอมเพื่อฆ่าเชื้อ และลดกลิ่นปาก ลดคราบบุหรี่ ชากาแฟ ได้อีกด้วยครับ
วิตามินซี ช่วยลดความหมองคล้ำ ช่วยสร้างคอลลาเจน และอิลาสติน ซึ่งเป็นส่วน ประกอบของชั้นผิวหนังแท้ทำให้ผิวแข็งแรง ลดสารอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากรังสี UV และซ่อมแซมผิวจากอันตรายจากแสงแดด ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ผิว ปรับสภาพผิวให้ขาวเนียนใส และกระชับตึง

วิตามินอี สร้างภูมิคุ้มกันใหักับผิว ทั้งยังช่วยเก็บออกซิเจน ช่วยซ่อมแซมผิว คืนผิวสุขภาพดี เนียนนุ่ม สดใส อ่อนวัยเสมอ มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของผิวเสื่อมโทรมแก่ก่อนวัย นอกจากนี้วิตามินอียังช่วยรักษาสมดุลของน้ำและไขมันบนผิวหนัง และทำให้หลอด เลือด ฝอย แข็งแรง ส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดี เนียนนุ่มชุ่มชื้น ดูสดใส อ่อนวัยเสมอ จากการศึกษาวิจัยพบว่าเมื่อใช้น้ำมันงาดิบนวดตัวในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ จะช่วยปรับระบบประสาทและระดับฮอร์โมน ให้เข้าสู่สภาวะสมดุล ช่วยคลายเครียดทำให้จิตใจสงบ และยังสามารถนำน้ำมันงาดิบไปใช้นวดตัว เพื่อขจัดอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า เล็ดขัดยอก และทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ อีกด้วย
จะเห็นได้ว่างานั้นเป็นพืชมหัศจรรย์ที่ช่วยปรนนิบัติทั้งผม และผิวของเราได้เป็นอย่างดี ในวันนี้ผมก็เลยมีเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการบำรุงผมด้วยโลชั่นหมักผมน้ำมันงามาฝากท่านผู้ฟังกันนะครับ เพียงนำมะกรูด 2-3 ผลมาคั้นน้ำ ผสมกับน้ำมันงาประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะให้เข้ากันดี ชโลมให้ทั่วศีรษะ หมักไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วจึงสระออกตามปกติ แค่นี้ก็จะช่วยให้สภาพผมที่แห้งเลียกลับมามีน้ำหนักและเป็นเงางามขึ้นแล้วครับ
               

อ้างอิง
http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20100708230209AA1Zafu
http://space.postjung.com/1097303-blog-74068.html
http://www.yesspathailand.com/
http://www.rakbankerd.com/agriculture/open.php?id=42&s=tblplant
http://www.pumedin.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538680763
http://www.n3k.in.th
http://www.agriman.doae.go.th/home/news3/news3_1/rai/007_sesame%2811.03.11%29.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น