แตงกวากับความชุ่มชื้น
แตงกวา (Cucumber) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis sativus L. จัดอยู่ในวงศ์
Cucurbitaceae แตงกวาจัดเป็นพืชเถาจึงต้องทำค้างเพื่อให้แตงกวาเกาะ
ใบแตงกวามีลักษณะกลม มีผลคล้ายกับตำลึง แต่แตงกวาจะมีขนาดของผลใหญ่กว่า
และผลของแตงกวาเมื่ออ่อนจะมีสีเขียว และเมื่อแก่จะมีสีเหลือง
เชื่อกันว่าแตงกวาเป็นพืชมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศอินเดีย
มีหลักฐานว่ามีการเพาะปลูกแตงกวาในดินแดนเอเชียตะวันตกมากว่า 3,000
ปี นอกจากนี้ ยังพบบันทึกการกินแตงกวาในดินแดนแถบประเทศตุรกีและบัลแกเรียมาตั้งแต่ครั้งโบราณอีกด้วย
จากนั้นบันทึกเรื่องแตงกวาขยายไปในประเทศกรีซ อิตาลี และจีน
ชาวโรมันในดินแดนอิตาลีชอบกินแตงกวามาก
ถึงกับปลูกไว้บนรถเคลื่อนที่ให้หลบอากาศหนาวได้เพื่อมีแตงกวาสดไว้กินตลอดปี
ชาวโรมันอาจเป็นผู้นำพืชนี้เข้าสู่ส่วนอื่นๆ ของดินแดนยุโรป ในคัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า
ประเทศอียิปต์มีแตงกวาอยู่ทั่วไป
พบหลักฐานการปลูกแตงกวาที่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ประเทศสหรัฐอเมริกาพบในศตวรรษที่
16
แตงกวามีคุณค่าทางโภชนาการ คือ
ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียมฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ
วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน วิตามินซี และมีเอนไซม์ชื่อ อีเร็ปซิน (erepsin) มีกรดแอมิโนหลายชนิดและมีสารสำคัญ เช่น คิวเคอร์บิทาซินซี(Cucurbitacin
C.) มีปริมาณสารซิลิคอนและฟลูออไรด์สูง มีสารสเตอรอล (sterol)
ซึ่งมีมากที่ผิวเปลือกของแตงกวา ทำให้ผิวขาวใสนุ่มนวล
ลดการเหี่ยวย่น
ทั้งนี้เพราะมีเอนไซม์อีเร็ปซิน ช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้านให้หลุดออกไป
ทำให้ผิวนุ่ม นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงผมและเล็บ
กล่าวถึงข้อดีของแตงกวากันมาพอสำควรแล้ว
วันนี้ผมได้นำสูตรง่ายๆเพื่อให้หล่อ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า 9 ข้อ
โดยใช้แตงกวามาฝากกันครับ
1.บรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา
หั่นแตงกวาเป็นแว่นตามขวาง หลับตาวางแว่นแตงกวาลง บนเปลือกตา
นอนในที่เงียบแสงสลัวๆจะช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา
ที่เกิดจากการใช้งานนานๆได้รับฝุ่นควัน แสงจ้า หรือใส่คอนแท็กเลนส์นานเกินไป เป็นภาพที่เราเห็นกันบ่อยๆนะครับ
ที่มีการนำแตงกวามาแปะไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้าง
แตงกวาเป็นมิตรแท้ของดวงตาเราจริงๆครับ
2.ลบถุงดำใต้ดวงตา ใช้น้ำคั้นผลแตงกวา
1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำคั้นมันฝรั่ง 1
ช้อนโต๊ะ ทารอบดวงตา พักราว 15 นาที จึงล้างออก
3.ผิวหน้าผุดผ่อง ใช้น้ำคั้นผลแตงกวาและ
นมสดปริมาณเท่าๆกัน เติมน้ำแช่กลีบกุหลาบ 2-3 หยด
(เลือกดอกกุหลาบที่ปลูกอย่างปลอดสาร ใช้กลีบกุหลาบมากหน่อย น้ำไม่ต้องมาก
วัตถุประสงค์ คือ ให้น้ำมันหอมจากกลีบกุหลาบออกมาอยู่ในน้ำ) ทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำให้ผิวหน้านุ่มและขาวขึ้น
4.ผิวหน้าสดใสสำหรับคนหน้ามัน ใช้น้ำมะนาวเล็กน้อยและน้ำแช่กลีบกุหลาบ
ผสมกับน้ำคั้นผลแตงกวา ทาบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน
5.ป้องกันสิวและสิวหัวดำ ใช้เนื้อแตงกวาขูดฝอยพอกบริเวณใบหน้าและคอ
ทิ้งไว้ 15—20 นาที ช่วยบำรุงผิว ใช้บ่อยๆช่วยป้องกันผิวหน้าแห้ง
ป้องกันการเกิดสิวและสิวหัวดำ
6.ลบรอยด่างดำ การดื่มน้ำคั้นแตงกวา
ร่วมกับการทาน้ำแตงกวาผสมน้ำแช่กลีบกุหลาบอัตราส่วนเท่าๆกัน ช่วยลดร่องรอยยุงกัด
และลดรอยด่างดำบนผิวหนังได้
7.บำรุงผิว ผสมน้ำคั้นแตงกวา
น้ำมะนาว น้ำส้ม น้ำแช่กลีบกุหลาบ กลีเซอรีน และน้ำผึ้งอย่าละเท่าๆกัน ใช้ทาผิว
ช่วยให้ตึงกระชับ เพิ่มความอ่อนเยาว์
8.ลดรอยหมองคล้ำใต้รักแร้ ใช้น้ำมันมะพร้าว
1 ช้อนโต๊ะ น้ำคั้นผลแตงกวา 1 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และผงขมิ้นครึ่งช้อนชา
หลังจากอาบน้ำเช็ดตัวให้ใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวเช็ดบริเวณใต้รักแร้เป็นวง กลม
หลังจากนั้นผสมน้ำแตงกวา น้ำมะนาว และผงขมิ้นให้เข้ากัน ทาใต้รักแร้ทิ้งไว้ 20
นาที จากนั้นล้างออกและเช็ดให้แห้ง ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
9.ช่วยการเจริญของผม
ให้ดื่มน้ำคั้นผลแตงกวาและน้ำแครอตเป็นประจำ
ซิลิก้าและกำมะถันในน้ำแตงกวาบำรุงเส้นผม เล็บและผิวหนัง
จะเห็นได้ว่าแตงกวานั้นช่วยทำให้ผิวพรรณของเราสดชื่นเปร่งปรั่งตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเรยนะครับ
เนื่องจากแตงกวาประกอบด้วยน้ำถึง 96 เปอร์เซ็นด้วยกัน
นอกจากนี้แตงกวาผลแก่สี่เหลืองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
ประโยชน์มากมายมหาศาลขนาดนี้ อย่าลืมทานแตงกวานะครับ
เอกสารอ้างอิง
http://natres.psu.ac.th
http://www.vcharkarn.com/vblog/38887
http://www.doctor.or.th/node/5751
http://www.n3k.in.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น