วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แตงกวากับความชุ่มชื้น



แตงกวากับความชุ่มชื้น

แตงกวา (Cucumber) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis sativus L. จัดอยู่ในวงศ์ Cucurbitaceae แตงกวาจัดเป็นพืชเถาจึงต้องทำค้างเพื่อให้แตงกวาเกาะ ใบแตงกวามีลักษณะกลม มีผลคล้ายกับตำลึง แต่แตงกวาจะมีขนาดของผลใหญ่กว่า และผลของแตงกวาเมื่ออ่อนจะมีสีเขียว และเมื่อแก่จะมีสีเหลือง
เชื่อกันว่าแตงกวาเป็นพืชมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศอินเดีย มีหลักฐานว่ามีการเพาะปลูกแตงกวาในดินแดนเอเชียตะวันตกมากว่า 3,000 ปี นอกจากนี้ ยังพบบันทึกการกินแตงกวาในดินแดนแถบประเทศตุรกีและบัลแกเรียมาตั้งแต่ครั้งโบราณอีกด้วย จากนั้นบันทึกเรื่องแตงกวาขยายไปในประเทศกรีซ อิตาลี และจีน ชาวโรมันในดินแดนอิตาลีชอบกินแตงกวามาก ถึงกับปลูกไว้บนรถเคลื่อนที่ให้หลบอากาศหนาวได้เพื่อมีแตงกวาสดไว้กินตลอดปี ชาวโรมันอาจเป็นผู้นำพืชนี้เข้าสู่ส่วนอื่นๆ ของดินแดนยุโรป ในคัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า ประเทศอียิปต์มีแตงกวาอยู่ทั่วไป พบหลักฐานการปลูกแตงกวาที่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ประเทศสหรัฐอเมริกาพบในศตวรรษที่ 16
แตงกวามีคุณค่าทางโภชนาการ คือ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียมฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน วิตามินซี และมีเอนไซม์ชื่อ อีเร็ปซิน (erepsin) มีกรดแอมิโนหลายชนิดและมีสารสำคัญ เช่น คิวเคอร์บิทาซินซี(Cucurbitacin C.) มีปริมาณสารซิลิคอนและฟลูออไรด์สูง มีสารสเตอรอล (sterol) ซึ่งมีมากที่ผิวเปลือกของแตงกวา ทำให้ผิวขาวใสนุ่มนวล ลดการเหี่ยวย่น  ทั้งนี้เพราะมีเอนไซม์อีเร็ปซิน ช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้านให้หลุดออกไป ทำให้ผิวนุ่ม นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงผมและเล็บ
 


กล่าวถึงข้อดีของแตงกวากันมาพอสำควรแล้ว วันนี้ผมได้นำสูตรง่ายๆเพื่อให้หล่อ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า 9 ข้อ โดยใช้แตงกวามาฝากกันครับ  
1.บรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา หั่นแตงกวาเป็นแว่นตามขวาง หลับตาวางแว่นแตงกวาลง บนเปลือกตา นอนในที่เงียบแสงสลัวๆจะช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าของดวงตา ที่เกิดจากการใช้งานนานๆได้รับฝุ่นควัน แสงจ้า หรือใส่คอนแท็กเลนส์นานเกินไป เป็นภาพที่เราเห็นกันบ่อยๆนะครับ ที่มีการนำแตงกวามาแปะไว้ที่ดวงตาทั้งสองข้าง แตงกวาเป็นมิตรแท้ของดวงตาเราจริงๆครับ
2.ลบถุงดำใต้ดวงตา ใช้น้ำคั้นผลแตงกวา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำคั้นมันฝรั่ง 1 ช้อนโต๊ะ ทารอบดวงตา พักราว 15 นาที จึงล้างออก
3.ผิวหน้าผุดผ่อง ใช้น้ำคั้นผลแตงกวาและ นมสดปริมาณเท่าๆกัน เติมน้ำแช่กลีบกุหลาบ 2-3 หยด (เลือกดอกกุหลาบที่ปลูกอย่างปลอดสาร ใช้กลีบกุหลาบมากหน่อย น้ำไม่ต้องมาก วัตถุประสงค์ คือ ให้น้ำมันหอมจากกลีบกุหลาบออกมาอยู่ในน้ำ) ทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำให้ผิวหน้านุ่มและขาวขึ้น
4.ผิวหน้าสดใสสำหรับคนหน้ามัน ใช้น้ำมะนาวเล็กน้อยและน้ำแช่กลีบกุหลาบ ผสมกับน้ำคั้นผลแตงกวา ทาบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าสดใส โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน
5.ป้องกันสิวและสิวหัวดำ ใช้เนื้อแตงกวาขูดฝอยพอกบริเวณใบหน้าและคอ ทิ้งไว้ 15—20 นาที ช่วยบำรุงผิว ใช้บ่อยๆช่วยป้องกันผิวหน้าแห้ง ป้องกันการเกิดสิวและสิวหัวดำ
6.ลบรอยด่างดำ การดื่มน้ำคั้นแตงกวา ร่วมกับการทาน้ำแตงกวาผสมน้ำแช่กลีบกุหลาบอัตราส่วนเท่าๆกัน ช่วยลดร่องรอยยุงกัด และลดรอยด่างดำบนผิวหนังได้
7.บำรุงผิว ผสมน้ำคั้นแตงกวา น้ำมะนาว น้ำส้ม น้ำแช่กลีบกุหลาบ กลีเซอรีน และน้ำผึ้งอย่าละเท่าๆกัน ใช้ทาผิว ช่วยให้ตึงกระชับ เพิ่มความอ่อนเยาว์
8.ลดรอยหมองคล้ำใต้รักแร้ ใช้น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำคั้นผลแตงกวา 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และผงขมิ้นครึ่งช้อนชา หลังจากอาบน้ำเช็ดตัวให้ใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวเช็ดบริเวณใต้รักแร้เป็นวง กลม หลังจากนั้นผสมน้ำแตงกวา น้ำมะนาว และผงขมิ้นให้เข้ากัน ทาใต้รักแร้ทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกและเช็ดให้แห้ง ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
9.ช่วยการเจริญของผม ให้ดื่มน้ำคั้นผลแตงกวาและน้ำแครอตเป็นประจำ ซิลิก้าและกำมะถันในน้ำแตงกวาบำรุงเส้นผม เล็บและผิวหนัง
จะเห็นได้ว่าแตงกวานั้นช่วยทำให้ผิวพรรณของเราสดชื่นเปร่งปรั่งตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเรยนะครับ เนื่องจากแตงกวาประกอบด้วยน้ำถึง 96 เปอร์เซ็นด้วยกัน นอกจากนี้แตงกวาผลแก่สี่เหลืองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ประโยชน์มากมายมหาศาลขนาดนี้ อย่าลืมทานแตงกวานะครับ

เอกสารอ้างอิง
http://natres.psu.ac.th
http://www.vcharkarn.com/vblog/38887
http://www.doctor.or.th/node/5751
http://www.n3k.in.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น