น้ำมันที่ใช้ในการทำเครื่องสำอาง
ก่อนอื่นต้องขออธิบายเกี่ยวกับน้ำมันก่อนนะครับ
น้ำมันเป็นสารชีวโมเลกุลกลุ่มที่เรียกว่าลิพิด (Lipid) ซึ่งเป็นสารที่มีองค์ประกอบหลักเป็นธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน
และออกซิเจน ไม่ละลายน้ำ เมื่ออยู่ในน้ำจะแยกออกจากน้ำเป็นชั้น แต่สามารถละลายได้ดีในสารที่เป็นน้ำมัน หรือในตัวทำละลายอินทรีย์บางชนิด เช่น
แอลกอฮอล์ เป็นต้น
องค์ประกอบและโครงสร้างของน้ำมันมีลักษณะเป็นสารประกอบที่เรียกว่า ไตรกลีเซอไรด์ (triglycerides) เกิดจากกลีเซอรอล (glycerol)
1 โมเลกุล
เข้าทำปฏิกิริยากับกรดไขมัน (fatty acids) 3
โมเลกุลโดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาและความร้อนร่วมด้วย
ความแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างไขมันและน้ำมัน คือ
ไขมันจะมีสถานะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง
ส่วนน้ำมันจะมีสถานะเป็นของเหลวครับ โดยทั่วไปแล้ว คำว่า น้ำมัน
หมายความถึง สารประกอบ 2 ประเภท
ประเภทแรก คือ น้ำมันแร่
ซึ่งสูบขึ้นมาจากใต้ดิน ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น
และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมหลายชนิด ไม่สามารถใช้บริโภคได้
ซึ่งจะไม่กล่าวถึงในที่นี้
ประเภทที่สอง คือ น้ำมันพืช
ที่บริโภคได้ ได้แก่ น้ำมันพืช และน้ำมันสัตว์ ซึ่งเป็นสารประกอบเชิงอินทรีย์เคมีที่พืชและสัตว์สั
งเคราะห์ขึ้นและถูกนำไปสกัดออกมาใช้บริโภค
แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นจึงได้นำน้ำมันพืชไปแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่น
ๆ นอกเหนือจากการบริโภคอีกมากมายซึ่งการนำน้ำมันมาใช้ในเครื่องสำอางก็เป็นหนึ่งในนั้นนะครับ
เกริ่นกันมาพอหอมปากหอมคอแล้วนะครับ
คราวนี้ผมจะพูดถึงประเด็นหลักของเราในวันนี้นะครับ
คือการใช้น้ำมันที่สกัดจากพืชต่างๆมาใช้ในเครื่องสำอาง
ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้น้ำมันหลายๆชนิดในเครื่องสำอางเพื่อบำรุงตามคุณสมบัติของน้ำมันนั้นดังนั้นวันนี้ผมจะขอยกตัวอย่างประโยชน์ทางด้านความงามของน้ำมันที่สกัดจากพืช
ซึ่งขอยกมา สี่ชนิดนะครับ
1.น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่ได้จากธรรมชาติปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ใด
ๆ เจือปน โดยเฉพาะยากำจัดศัตรูพืช ซึ่งมักจะมีอยู่ในน้ำมันพืชอื่น ๆ
เนื่องจากกรดไขมันในน้ำมันมะพร้าวมีขนาดโมเลกุลที่เล็ก ทำให้ถูกดูดซึมเข้าไปได้ง่าย
เราสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวในสภาพที่สกัดได้ตามธรรมชาติทันที
โดยไม่ต้องทำให้บริสุทธิ์ ฟอกสี และกำจัดกลิ่น ดังเช่นน้ำมันพืชอื่น ๆ
จึงปลอดภัยจากอันตรายจากสารเคมี น้ำมันมะพร้าวมีบทบาทต่อความงาม
ในเรื่องดังต่อไปนี้
- ผิวดูอ่อนวัย : น้ำมัน มะพร้าวที่ใช้ชโลมตัว
ทั้งในรูปน้ำมันมะพร้าวสด ๆ หรือในรูปของผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าว เช่น ครีม
และโลชั่นจะทำให้ผิวพรรณนุ่มไม่แตกแห้งเป็นกระ หรือฝ้า แต่ชุ่มชื้นและผิวเนียน
ปราศจากริ้วรอยเหี่ยวย่น
ทั้งนี้เพราะน้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอีที่มีอานุภาพมากกว่าวิตามินอีใน
เครื่องสำอางช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดการเสื่อมของ
เซลล์ผิวหนัง ป้องกันการเสื่อมโทรมของเซลล์จากขบวนการเติมออกซิเจน (Oxidation)
ช่วย กำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและทับถมกันจนทำให้ผิวแห้ง
ขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่จึงทำให้ผิว
พรรณดูอ่อนกว่าวัย
- ผิวนุ่มและเนียน :
ตามปกติผิวหนังจะสูญเสียความชื้นเพราะถูกแดดและลม
น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติเป็นสารรักษาความชุ่มชื้น (Moisturizer) จึงช่วยให้ผิวหนังนุ่มและเนียน
- ช่วยป้องกันและรักษาฝ้า
และกระ : อนุมูล อิสระเป็นตัวการอันหนึ่งของการเกิดฝ้า และกระ
วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวจะทำหน้าที่ทำลายอนุมูลอิสระเหล่านี้
เราสามารถใช้นำมันมะพร้าวเป็นยากันแดดได้ดีอีกทั้งยังไม่เหนียวเหนอะหนะ
เหมือนยากันแดดบางชนิด และราคาก็ถูกกว่า
- ช่วยปรับสภาพของผม :
น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมัน hair conditioner ที่ช่วยทำให้ผมนุ่มดำเป็นเงางาม
เพราะมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมการเจริญของเส้นผม
- ช่วยรักษาสุขภาพของหนังศีรษะ
: น้ำมัน มะพร้าวช่วยรักษาสุขภาพของหนังศีรษะทั้งนี้
เพราะน้ำมันมะพร้าวมีสารปฏิชีวนะที่คอยทำลายเชื้อโรค หนังศีรษะจึงไม่มีรังแค
และมีวิตามินอีที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ หนังศีรษะจึงไม่เหี่ยวย่นแต่มีสุขภาพดี
2.น้ำมันรำข้าว ช่วย
บำรุงปกป้องผิวและเส้นผม มันช่วยมอบความอ่อนนุ่ม ควบคุมรูปทรงของเส้นผม
ทำให้เส้นผมเรียบลื่นพร้อมเคลือบเส้นผมให้เงางาม เพราะอุดมด้วยวิตามินบี 1
และวิตามินบี 6 ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม
3.น้ำมันมะกอก บำรุงเล็บ
ทาน้ำมันมะกอกเล็กน้อยลงรอบเล็บ นวดเบาๆ เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่หนังรอบเล็่บ ถนอมผิวแห้งกร้าน
ทาน้ำมันเล็กน้อยให้ทั่วผิวกาย หลังจากอาบน้ำ ผิวที่แห้งกร้านจะกลับนุ่มนวลชุ่มชื้น
บำรุงผมได้เป็นอย่างดีเนื่องจากมีสาร Hydroxytyrosol ที่ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระของเคราตินหรือโปรตีนที่คอยปกป้องเส้นผมได้
เป็นอย่างดี เส้นผมจึงแข็งแรง ไม่เปราะหรือขาดง่าย
4.น้ำมันงา ใช้หมักผม
จะทำให้เส้นผมดกดำ ไม่หลุดร่างง่าย ผมไม่แห้งแตกปลาย ใช้บำรุงผิวหน้า ผิวกาย
นวดตัว คลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ช่วยให้หลอดเลือดขยาย อมฆ่าเชื้อ
และลดกลิ่นปาก ลดคราบบุรี ชากาแฟ
จะเห็นได้ว่าน้ำมันสกัดจากพืชที่ผมยกตัวอย่างมามีประโยชน์ด้านความงามแบบครบถ้วนจริงๆนะครับไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิว
ผม เล็บ เมื่อมาถึงตอนนี้ท่านผู้ฟังคงจะหายสงสัยแล้วนะครับว่าทำไมถึงมีการใช้น้ำมันในเครื่องสำอางมากมายถึงขนาดนี้นะครับ
แต่อย่างไรก็ตามการเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อความงามต่างๆก็อย่าลืมศึกษาและหาข้อมูลที่เชื่อถือได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนะครับเพื่อประโยชน์และความคุ้มค่าที่สุดต่อตัวท่านเองครับ
อ้างอิง
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=2287853
http://www.be2hand.com/scripts/view.php?prod_id=754631
http://women.mthai.com/beautytipandtrick/18688.html
http://vietskin.com/th/hair-care/beauty-on-a-budget/
http://vietskin.com/th/tag/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A1/
http://www.pumedin.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538680763
http://www.baanidin.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539161375&Ntype=4
http://thaisutra.blogspot.com/2010/07/blog-post_07.html
http://www.zazana.com/Health-/10-id1336.aspx
http://www.kanahproduct.com/
http://www.baanidin.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539161382&Ntype=4
http://www.naturalmind.co.th/index.aspx?ContentID=ContentID-090910200220937
http://www.beautyfullallday.com/?subject=83
http://www.praphansarn.com/new/c_woman/detail.asp?ID=197
http://www.mary.ac.th/physic_nut/page14.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น